บิ๊กป้อม สั่งเร่งผุด “ทางเดินแม่น้ำเจ้าพระยา” ล่าสุดมีการปรับรูปแบบก่อสร้างใหม่ให้เล็กลง จากเดิมกว้างฝั่งละ 19.5 เมตร
เหลือฝั่งละ 5 – 12 เมตร เปิดซอง ต.ค. 59 – เสร็จใช้ปี 61 ไฟเขียว 120 ล้านบาท ให้ กทม. จ้าง “ม.ลาดกระบัง – ม.ขอนแก่น” เป็นที่ปรึกษาโครงการ กำหนด 7 เดือน สำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บท ตามกำหนดระยะเวลาใหม่ ที่รัฐบาลเห็นชอบ คาดลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาได้ปลาย ก.พ. 59 นี้ เผยจ้างศึกษาตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต กทม. 14 กิโลเมตร รวมถึงศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รับฟังความคิดเห็นประชาชน ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวาง
วันนี้ (17 ก.พ.) มีรายงานว่า ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2559 เพื่อรับรายงานความคืบหน้าการโครงการและเสนอขอปรับกรอบระยะเวลาดำเนินโครงการใหม่ภายหลังจากดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโครงการเรียบร้อยแล้ว มี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม
นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ รายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า อยู่ระหว่างดำเนินการจ้างที่ปรึกษาสำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาโดยวิธีตกลง เนื่องจากการจ้างที่ปรึกษาฯ โดยวิธีการคัดเลือกที่ผ่านมา มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 2 ราย แต่แสดงความจำนงยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคและราคาเพียงรายเดียวเท่านั้น ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกที่ปรึกษาโครงการจำเป็นต้องยกเลิกการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีการคัดเลือก และขออนุมัติให้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีการตกลง
โดยการจ้างมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่ง กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับ “สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)” ในการเป็นที่ปรึกษาสำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ตอบรับการเป็นที่ปรึกษา โดยจะทำงานร่วมกับ “มหาวิทยาลัยขอนแก่น” คาดว่า จะสามารถลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2559
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาโครงการฯ จะดำเนินการสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำแผนแม่บทฯ ไม่เฉพาะระยะทางตามแผนงาน 14 กิโลเมตร จากสะพานพระราม 7 – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เท่านั้น แต่จะดำเนินการศึกษาให้ตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร รวมถึงศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวางไปพร้อมกัน
มีรายงานว่า กทม. ได้แจ้งต่อคณะกรรมการอำนวยการ ในการขอปรับกรอบระยะเวลาดำเนินการโครงการ (Time Frame) เนื่องจากความล่าช้าในการจัดหาและการจ้างที่ปรึกษาโครงการ ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากลงนามในสัญญาจ้างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ประมาณปลายเดือน ก.พ. 59
จากนั้นที่ปรึกษาโครงการฯ จะใช้เวลาในการศึกษา สำรวจ ออกแบบ และจัดทำแม่บท เป็นระยะเวลา 7 เดือน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการประมูลจ้างผู้รับเหมาดำเนินโครงการได้ในเดือน ต.ค. 59 และโครงการจะสามารถแล้วเสร็จประมาณในปี 2561 ในส่วนของการรื้อย้ายชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยานั้น คณะกรรมการอำนวยการฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการสำรวจและพิจารณาจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้แก่ชุมชนที่รุกล้ำและได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการ ซึ่งผลสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนรุกล้ำจำนวน 256 หลังคาเรือน
มีรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินงานใหม่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์โครงการให้ผู้ประชาชนรับทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์โครงการ รวมถึงนำความต้องการและความคิดเห็นของประชาชนมาเป็นข้อมูลในการศึกษาและออกแบบโครงการ โดยให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานต่อคณะกรรมการอำนวยการทุกเดือน
อนึ่ง โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ และใช้ประโยชน์ร่วมกัน อาทิ ทางเดิน ทางจักรยาน สถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพและนันทนาการ เกิดทัศนียภาพสวยงามและจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ประชาชนทุกคนได้ใช้สอยอย่างคุ้มค่าร่วมกัน
มีรายงานว่า โครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ กทม. ได้จัดทำรายละเอียดให้ทันประมูลก่อสร้าง โดยงบที่นำมาใช้ก่อสร้างเป็นงบประจำปี จำนวนเงิน 14,006 ล้านบาท ระยะแรกของโครงการจะสร้างบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มที่สะพานพระราม 7 จนถึงบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รวมระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ทางเดินติดริมแม่น้ำกว้าง 7 เมตร สวนหย่อม 3 เมตร ทางจักรยานกว้าง 7 เมตร ทางเท้า – บันได 2.50 เมตร ส่วนคอนกรีตที่ยื่นลงไปในแม่น้ำข้างละ 20 เมตร แต่ล่าสุดมีการปรับรูปแบบก่อสร้างใหม่ให้เล็กลง จากเดิมกว้างฝั่งละ 19.5 เมตร เหลือฝั่งละ 5 – 12 เมตร
กทม. ได้กำหนดการจัดจ้างที่ปรึกษา ออกแบบรายละเอียดแผนแม่บทเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ยื่นขออนุมัติงบประมาณจาก ครม. เดือนมีนาคม 2559 เปิดประกวดราคาเดือนเมษายน 2559 และลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2559 จะใช้งบประมาณในการเริ่มก่อสร้าง 1,000 ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นงบประมาณผูกพันปีต่อไปจนแล้วเสร็จในปี 2561
รายละเอียดเดิมโครงการงบประมาณ 14,006 ล้านบาทก่อสร้าง 4 สัญญา ซึ่งจะแบ่งเป็น – ปี 2558 570 ล้านบาท – ปี 2559 – 2560 13,136 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 ก้อน – ปี 2559 จำนวน 9,100 ล้านบาท – ปี 2560 จำนวน 4,336 ล้านบาท งบประมาณในส่วนอื่น – งบควบคุมการก่อสร้าง 18 เดือน 250 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างจะเริ่มขึ้น ในช่วงเดือนตุลาคม- ค่าชดเชยรับฟังความคิดเห็น 500 ล้านบาท – ค่าที่ปรึกษาออกแบบ 120 ล้านบาท ระยะของการออกแบบใช้เวลา ประมาณ 8 เดือน สิ่งก่อสร้างเขตโครงการศาสนสถาน 8 แห่ง สถานที่สำคัญ 19 แห่ง สถานที่ราชการ 8 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง ท่าเรือ 36 แห่ง ร้านอาหาร 6 แห่ง ชุมชนรุกล้ำ 29 แห่ง
cr:Mgronline 17.02.59