ม.ธรรมศาสตร์ชูสุดยอด 129 หลักสูตรป.ตรีอัปเลเวลสู่ “มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำแห่งอนาคต”
เดินหน้าเอมพาวเวอร์นิวเจเนอเรชันสู่ผู้สร้างอนาคตรับทศวรรษใหม่ในงานเปิดบ้าน Thammasat Open House 2024
Thammasat Open House
- คนรุ่นใหม่ยังสนใจศึกษาต่อม.ธรรมศาสตร์อย่างต่อเนื่อง มธ. รุกปรับหลักสูตรครั้งใหญ่เน้นรับความสนใจ โอกาส และการเปลี่ยนแปลงโลก
กรุงเทพฯ 8 พฤศจิกายน 2567 – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่ผ่าน Thammasat Open House 2024 ภายใต้แนวคิด “Spectrum of Colors : พื้นที่แห่งโอกาส จักรวาลสู่การเรียนรู้” ระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อต้อนรับนักเรียนและบุคคลทั่วไปที่สนใจการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้เข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศและทำความรู้จักกับหลักสูตรระดับปริญญาตรีของคณะวิทยาลัยและสถาบันต่าง ๆ กว่า 129 หลักสูตร พร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นพบเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง และมุ่งเน้นการพัฒนาบัณฑิตที่มีคุณภาพสูง มีความรู้ความสามารถรอบด้าน และพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวหน้า นอกจากนี้ยังได้พบกับกิจกรรมเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจต่าง ๆ จากรุ่นพี่ศิษย์เก่า คณาจารย์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ การแสดงผลงานของนักศึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งช่วยให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนและพร้อมตัดสินใจเลือกคณะที่ใช่ก่อนก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังเป็นการเปิดโลกทัศน์การศึกษาของมหาวิทยาลัยสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำแห่งอนาคต” และเป็นผู้นำด้านการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะศูนย์กลางแห่งการพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้พร้อมกับความท้าทายของอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า งาน Thammasat Open House ในปีนี้ มีความพิเศษกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา โดยการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “Spectrum of Colors” ซึ่งเป็นการแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ตามความต้องการทั้งในการจัดการศึกษาที่ครอบคลุม รวมถึงการส่งเสริมทักษะชีวิตตามความสนใจอย่างหลากหลาย ในโอกาสครบรอบปีที่ 90 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับการก้าวไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายการขับเคลื่อนสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำ เพื่อสังคมแห่งอนาคต” หรือ “Leading Comprehensive University for Future Societies” ธรรมศาสตร์มุ่งมั่นสู่การเป็นศูนย์รวมที่เชื่อมต่อศาสตร์แห่งการเรียนรู้ในทุกสาขาวิชาอย่างเปิดกว้าง และมีความพร้อมทั้งสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงสหวิทยาการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ตามความถนัด รวมถึงการต่อยอดเฉพาะทาง พร้อมพัฒนาพื้นที่ที่เอื้อต่อรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลาย เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาคและยั่งยืน”
หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ไฮไลต์สำคัญของงานนี้คือ การจัดแสดงนิทรรศการที่นำเสนอภาพรวมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วิชาการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้มีส่วนร่วม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Talk Session ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนและผู้ปกครองได้พูดคุยกับศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการ เพื่อรับฟังประสบการณ์ตรงในการศึกษาและการใช้ชีวิตที่ธรรมศาสตร์ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยที่จะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง เป็นสถาบันที่พร้อมจะขับเคลื่อนอนาคตและสร้างสรรค์ความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม ด้วยการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้มีทั้งความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับความท้าทายของโลกยุคใหม่”
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธรรมศาสตร์ได้ปรับปรุงหลักสูตรต่าง ๆ ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการเสริมสร้างทักษะทั้ง Hard skill และ Soft skill เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้เรียน สามารถรับมือและปรับตัวต่อความเป็นพลวัตของสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรระดับปริญญาตรี จำนวนกว่า 129 หลักสูตร ใน 19 คณะ 6 วิทยาลัย 1 สถาบัน จาก 3 กลุ่มวิชา ใน 4 ศูนย์การศึกษา ทั้งท่าพระจันทร์ ศูนย์รังสิต ศูนย์ลำปาง และศูนย์พัทยา พันธกิจและการดำเนินงานที่กล่าวมานี้ ได้มีการผลักดันเสมอมาเพื่อให้ธรรมศาสตร์มีความพร้อม ซึ่งการพัฒนาหลักสูตรยังครอบคลุมไปถึงระดับปริญญาโทและเอก รวมทั้งหมดกว่า 300 หลักสูตร และเป็นที่ยอมรับในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีศักยภาพ และเป็นพื้นที่แห่งโอกาสของการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด
โดยภายในงานยังพบกับกิจกรรมบนเวทีกลางมากมาย (Grand Auditorium Hall) การเสวนาที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งเรื่องการศึกษา การค้นหาตัวตน การพัฒนาทักษะในอนาคต และการสร้างความเท่าเทียมในสังคม โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เช่น การเสวนา “ONE Way Tricks to get TCAS 68” สำหรับเตรียมความพร้อม TCAS68 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงและแนวทางใหม่ที่นักเรียนควรทราบ (รอบการคัดเลือกในระบบ TCAS Portfolio/Quota/Admission/Direct Admission) การเสวนา “Skills for Future Success” การค้นหาตัวตนและเตรียมความพร้อมสู่โลกอนาคต และการเสวนา “Spectrum of Unity” สีสันแห่งความหลากหลายสู่เป้าหมายแห่งความเท่าเทียม นอกจากนี้ ยังมีการแสดงจากศิลปินชื่อดัง เช่น ATLAS และ LYKN รวมถึงการแสดงผลงานแฟชั่นโชว์โดยนักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่จะทำให้งานนี้เต็มไปด้วยความสนุกและความสร้างสรรค์
ทั้งนี้ งาน Thammasat Open House 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างใกล้ชิด ทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างนักเรียน นักศึกษา และมหาวิทยาลัย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคมต่อไป โดยมุ่งเน้นการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21
พร้อมทั้งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ ที่ต้องการสร้างสรรค์บัณฑิตที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะในการแก้ปัญหา และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thammasat Open House 2024 หรืองานเปิดบ้านธรรมศาสตร์ รวมถึงได้มีโอกาสพบเจอกับนักเรียนจากหลากหลายสถานศึกษาที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อเข้ามาสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ตลอดจนได้เห็นบรรยากาศการใช้ชีวิตของการเป็นนักศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
“เรามีความมุ่งมั่นในการพัฒนากำลังคนและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับการแข่งขันในระดับสากล และเข้าใจถึงความสำคัญของการเตรียมศักยภาพของนักศึกษาให้พร้อมสำหรับอนาคตที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง และตระหนักว่าการขับเคลื่อนนโยบายที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทั้งนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าที่จะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับทุกคน ไม่ว่าจะมาจากพื้นฐานใด เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”