นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)
ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เร่งดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หลังจากที่มีข่าว ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกแฮกและรั่วไหลไปยังมิจฉาชีพ
ซึ่งเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า ทาง สคส. ได้รับคำสั่งจากท่านรองนายกรัฐมนตรี และรมว. ดีอี ให้เร่งตรวจสอบข่าวห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่โดนแฮกข้อมูลส่วนบุคคลจำนวน 5 ล้านรายชื่อ สคส. จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงทันที โดยเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ของห้างดังกล่าว ได้เข้ามารายงานและชี้แจงตามที่กฎหมายกำหนด โดยเบื้องต้นได้ให้ข้อมูล ดังนี้:
- ยังไม่พบร่องรอยการถูกโจมตีหรือช่องโหว่ที่ทำให้ข้อมูลถูกขโมยหรือรั่วไหล
- ได้แจ้งความดำเนินคดีกับแฮกเกอร์ต่อตำรวจไซเบอร์ เพื่อเร่งสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สคส. ได้กำชับให้บริษัทเร่งตรวจสอบและดำเนินการเร่งด่วนในการตรวจสอบมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท ทั้งในด้านองค์กรและเทคนิคอย่างละเอียด โดยให้รายงานความคืบหน้าต่อ สคส. ภายใน 7 วัน
ดร.เวทางค์ กล่าวเพิ่มว่า “รองนายกฯ ประเสริฐ ได้สั่งการให้เร่งหาข้อเท็จจริงและย้ำเตือนถึงการขายข้อมูลโดยมิชอบ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครองตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และ PDPA โดยกำชับให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”