DHL eCommerce ใช้ความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทย

FLASH PRESS
ฝากข่าว โดย :

DHL eCommerce

– DHL eCommerce ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือสหกรณ์ชาวนาทั่วประเทศโดยใช้บริการด้านอีคอมเมิร์ซสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มช่องทางการขายข้าวให้เกษตรกรท่ามกลางสถานการณ์ข้าวล้นตลาด

DHL eCommerce ประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มบริษัท Deutsche Post DHL Group (DPDHL Group) ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ นำความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์มาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทยเพื่อเพิ่มช่องทางการขายข้าวให้กับเกษตรกรผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ โดยให้บริการส่งข้าวฟรีเป็นเวลา 4 เดือนท่ามกลางภาวะข้าวล้นตลาด และสถานการณ์การส่งออกข้าวที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง

DHL eCommerce ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ แนะนำวิธีการติดตั้ง วิธีการใช้งาน และวิธีการบริหารจัดการสินค้าบนเว็บไซต์ออนไลน์ รวมถึงกระบวนการจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภคในประเทศไทยให้กับสหกรณ์ชาวนาทั่วประเทศ ผู้เชี่ยวชาญจาก DHL eCommerce ยังให้คำแนะนำและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทยด้วยการเชื่อมโยงกระบวนการขายเข้ากับ E-Commerce Portal (ระบบอีคอมเมิร์ซพอร์ทัล) บนระบบร้านค้าออนไลน์ของผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย – BentoWeb (เบนโตะเว็บ) ที่ได้ผสานการทำงานเข้ากับ DHL eCommerce Customer Web Portal (ระบบเว็บพอร์ทัล) ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเกษตรกรจะสามารถบริหารจัดการการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพียงปลายนิ้ว จากนั้น DHL eCommerce จะเป็นผู้ไปรับข้าวจากเกษตรกรและจัดส่งไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศไทย

ความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ BentoWeb ประกอบกับประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ระดับโลกของ DHL และความรู้ทางด้านการทำธุรกิจออนไลน์ในประเทศของ DHL eCommerce ประเทศไทย จะช่วยให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรโดยเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์จะช่วยผลักดันและส่งเสริมโครงการนี้ และช่วยเกษตรกรลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.thaitrade.com/rice ในขณะที่ BentoWeb จะดูแลกระบวนการสั่งซื้อออนไลน์และการบริหารจัดการสินค้าออนไลน์ให้กับเกษตรกร โดย DHL eCommerce จะเป็นผู้ไปรับสินค้าจากแหล่งผลิตและส่งตรงไปยังผู้บริโภคที่สั่งซื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ DHL eCommerce ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสใช้ความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ของเราให้เกิดประโยชน์กับการประกอบอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทย ในฐานะบริษัทในประเทศไทยที่ให้บริการจัดส่งสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและร่วมสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนต่างๆ”

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก โดยคาดว่าจะมีการส่งออกข้าว 25 ล้านตันในปีพ.ศ. 2559 และปีพ.ศ. 25601 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นคือความร่วมมือกับ DHL eCommerce ประเทศไทยในการช่วยเกษตรกรขายผลิตผลผ่านช่องทางออนไลน์ เราทำงานร่วมกันมาตลอด 3 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มช่องทางให้เกษตรกรได้ทำธุรกิจผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งผู้บริโภคในประเทศสามารถสั่งซื้อข้าวออนไลน์ และ DHL eCommerce จะเป็นผู้จัดส่งสินค้าตรงถึงมือของผู้บริโภค เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ DHL eCommerce ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนการช่วยเหลือกลุ่มสหกรณ์ชาวนา”

สหกรณ์ชาวนาอย่างเช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ซึ่งเผชิญกับสถานการณ์ข้าวล้นตลาด ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจาก DHL eCommerce กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสงอธิบายว่า “อินเทอร์เน็ตได้เปิดโอกาสในการทำธุรกิจให้เรามากขึ้น เราสามารถติดต่อและเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งวิธีการแบบเก่าที่เราใช้อยู่ก่อนหน้านี้ทำไม่ได้ นอกจากนี้เราไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดส่งเพราะได้รับการดูแลโดยผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซช่วยให้เรามีทางเลือกมากขึ้น ทำให้เราได้รับผลกระทบจากอิทธิพลในตลาดน้อยลงและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขายของเราในรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างอิสระ”

นอกจากขีดความสามารถในการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศแล้ว DHL eCommerce ยังมีบริการการจัดส่งสินค้าภายในประเทศมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้ เนื่องด้วยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว DHL eCommerce จึงได้เพิ่มบริการจัดส่งสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศครบวงจรให้กับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทย DHL eCommerce มีศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าใหญ่ในกรุงเทพฯ ขนาด 3,000 ตารางเมตร และมีเครือข่ายของศูนย์กระจายสินค้าย่อยมากกว่า 40 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อรองรับการขนส่งทั่วทุกภูมิภาค2 ภายในปีพ.ศ. 2560 DHL eCommerce มีเป้าหมายที่จะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าให้มากขึ้นกว่าสองเท่าของที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะขยายความสามารถในการจัดส่งโดยจะเพิ่มจำนวนรถจัดส่งที่สามารถส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า3 ท่ามกลางปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการขนส่งที่หลากหลายในประเทศไทย

– จบ –

คุณสามารถอ่าน ดาวน์โหลดและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ได้ที่
http://www.dhl.co.th/th/press/releases

ติดต่อสอบถาม:

DHL eCommerce
Media Relations
Cheryl Han / Monica Ng
โทร.: +65 6879 8012 / +65 6879 8011
อีเมล์: cheryl.han@dhl.com / monica.ng@dhl.com

เว็บไซต์: www.dpdhl.de/press

ติดตามเราได้ที่: www.twitter.com/dhlecommerce

DHL – The logistics company for the world

DHL เป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ซึ่งมอบบริการและความเป็นเลิศทางด้านโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งภายในและระหว่างประเทศ การขนส่งทางบก ทางเรือ และการขนส่งด่วนทางอากาศ ตลอดจนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานในภาคอุตสาหกรรมผ่านกลุ่มธุรกิจต่างๆ ด้วยบุคลากรกว่า 340,000 คนใน 220 ประเทศและพื้นที่ต่างๆทั่วโลก DHL เชื่อมโยงผู้คนและธุรกิจด้วยบริการที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย ซึ่งเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศด้วยความเชี่ยวชาญและโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่ครบครันครอบคลุมตลาดและอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต ซึ่งหมายรวมถึงอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ชีวภาพ อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ พลังงาน ยานยนต์และการค้าปลีก อีกทั้งความมุ่งมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ในตลาดที่กำลังพัฒนา DHL จึงมั่นใจว่าเราเป็น “The logistics company for the world”

DHL เป็นส่วนหนึ่งของ Deutsche Post DHL Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 59,000 ล้านเหรียญยูโรในปีพ.ศ. 2558

อินโฟเควสท์ เป็นสำนักข่าวออนไลน์ ด้านเศรษฐกิจและการเงิน ข่าวสารจากสื่อหนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย ผลิตและรายงานข่าวเศรษฐกิจ หุ้น การเงิน การลงทุน และข่าวต่างประเทศในรูปแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุน