Deepfake คืออะไร?
ดีปเฟก (Deepfake) คืออีกหนึ่งรูปแบบของการปลอมแปลงเนื้อหาตั้งแต่ข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ หรือแม้กระทั่งบทความ เช่น การตัดต่อใบหน้าของดารา ไปใส่ในวิดีโออนาจาร การปลอมแปลงวิดีโอที่ทำให้คนพูดประโยคที่ต่างจากวิดีโอต้นฉบับ การปลอมแปลงเสียง และการเขียนข่าวลวงที่ทำให้ประชาชนเชื่อถือ ซึ่งผลงานที่ดีปเฟกสร้างขึ้นนั้นมีความแนบเนียน สมจริง ยากที่คนไม่เข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถแยกแยะเองได้ ซึ่งสถิติการเติบโตของวิดีโอดีปเฟกจากช่วงสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตขึ้นเกือบ 100% โดยมีจำนวนวิดีโอดีปเฟกสูงถึง 14,678 วิดีโอ (96% เกี่ยวข้องกับหนังอนาจาร)
Deepfake ทำงานอย่างไร?
การทำงานของดีปเฟก คือ การนำเอไออัลกอริทึม (AI algorithm) ประเภท deep learning algorithm ที่มีโครงสร้างที่เรียกว่า GANs (generative adversarial networks) ซึ่งโดยปกติเอไออัลกอริทึมประเภทนี้จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างข้อมูลสังเคราะห์เพื่อสร้างข้อมูลเพิ่มในงานวิจัยต่างๆ และใช้ตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล รวมถึงสามารถตรวจจับดีปเฟกได้ด้วยเช่นกัน
Deepfake มาจาก 2 คำศัพท์ ได้แก่ Deep learning และ Fake โดย Deep learning เป็นกิจกรรมชนิดหนึ่งของ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำหน้าที่ เรียนรู้ข้อมูลบางอย่าง และ สามารถตัดสินใจกระทำการบางอย่างโดยอิงจากฐานข้อมูลที่เรียนรู้มา
ในกรณีนี้ คือ การเรียนรู้อัตรลักษณ์ อาทิ ใบหน้าบุคคล รวมไปถึงรูปแบบการเคลื่อนไหว การพูดจา และน้ำเสียง เก็บบันทึกข้อมูลใบหน้าอย่างละเอียดทุกซอกมุม จากนั้นสามารถนำเสนอใบหน้าของบุคคลนั้นในรูปแบบต่าง ๆ อย่างอิสระราวกับบุคคลนั้นกำลังปรากฏตัวและพูดอยู่หน้ากล้องจริง ๆ
Deepfake AI อยู่ใกล้ตัวคุณแค่ไหน
Deepfake AI อยู่ใกล้แค่เอื้อมนั่น คือ อยู่ในแอพพลิเคชันในมือถือของคุณ ได้แก่ Facebook และ Snapchat เช่นการโพสต์รูปภาพใน Facebook และมีการแท็กชื่อเพื่อนหรือชื่อคุณได้อย่างถูกต้องแม้จะคุณหรือเพื่อน จะทำผมคนละทรง หรือ ใส่แว่นตา หรือ หมวกคนละใบกับครั้งก่อน เหล่านี้เกิดจากการความเฉลียวฉลาดของ Deepfake AI
DeepFakes (a portmanteau of “Deep learning” and “Fake”) are synthetic media in which a person in an existing image or video is replaced with someone else’s likeness. While the act of faking content is not new, deepfakes leverage powerful techniques from machine learning and artificial intelligence to manipulate or generate visual and audio content with a high potential to deceive. The main machine learning methods used to create deepfakes are based on deep learning and involve training generative neural network architectures, such as autoencoders or generative adversarial networks (GANs).
Deepfakes have garnered widespread attention for their uses in celebrity pornographic videos, revenge porn, fake news, hoaxes, and financial fraud. This has elicited responses from both industry and government to detect and limit their use.
Deep Nude
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ถูกนำเอามาใช้ในทางที่ผิด คือ DeepNude
DeepNude (ดีปนู๊ด) เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สร้าง ภาพโป๊เปลือย
DeepNude เป็นด้านกลับของ DeepFake ซอฟต์แวร์ที่สร้างจากโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่วางใบหน้าของคนที่ผู้ใช้ต้องการเข้าไปบนภาพหรือวิดีโอโป๊ โดย DeepNude จะวาดร่างกายที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเข้าไปบนภาพจริงแทน ทำให้ภาพโป๊ที่ได้เป็นท่าทางจริงของภาพต้นฉบับ แม้จะสร้างภาพให้สมจริงแต่ภาพร่างกายก็เป็นภาพที่โมเดลปัญญาประดิษฐ์สร้างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ใช่ภาพจริงที่มองทะลุเสื้อผ้าได้แต่อย่างใด
DeepNude ใช้ A.i. สร้าง รูปโป๊เปลือย จากรูปของหญิงสาวที่ใส่เสื้อผ้ามิดชิด
ผู้สร้าง DeepNude เรียกตัวเองว่า Alberto ระบุว่าใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์หลายชุด เพื่อแยกส่วนเสื้อผ้าออกมาจากภาพ, ประเมินท่าทางของผู้สวมใส่, และวางร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าลงไป โดยโมเดลปัญญาประดิษฐ์หลักเป็น pix2pix ที่โอเพนซอร์สอยู่แล้ว
สำหรับ โปรแกรม DeepNude(ดีปนู๊ด) ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.62 ที่ผ่านมาและก็ปิดตัวลงในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เนื่องจากผู้สร้างให้เหตึผลว่าตัวโปรแกรมดังกล่าว “ขัดต่อศีลธรรม” สำหรับการทำงานของ DeepNude(ดีปนู๊ด) เพียงแค่นำภาพของผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้า ไม่จำเป็นต้องวับๆแวมๆแต่ใส่เสื้อผ้าแบบมิดชิด ก็สามารถสร้างเป็นภาพโป๊เปลือย ภาพนู๊ดของเธอได้
ถึงแม้ว่า DeepNude(ดีปนู๊ด) จะปิดตัวไป แต่เชื่อว่าจะยังคงมีการพัฒนาต่อไป อาจจะไม่ใช่ทีมของ Alberto แต่ทีมอืนๆที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีดังกล่าวก็สามารถพัฒนาต่อได้ ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถูกส่งต่อเพียงไม่กี่วินาที รูปที่เรากดส่งต่อไปอาจสร้างความเสียหายและทำลายขีวิตของคนๆหนึ่งได้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยถ่ายรูปโป๊เปลีอยของตนเองเลยก็ตาม