Continental, Deutsche Telekom, Fraunhofer ESK และ Nokia Networks ร่วมนำเสนอแอปพลิเคชั่นด้านความปลอดภัยเป็นครั้งแรกตามแผนงาน “Digital A9 Motorway Test Bed”

FLASH SALE
ฝากข่าว โดย :

มิวนิก–10 พ.ย.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

– โครงการแรกตามแผนงาน “digital A9 motorway test bed” โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนและระบบควบคุมการจราจร
– ยกระดับเครือข่ายมือถือด้วยเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์

Continental, Deutsche Telekom AG, Fraunhofer ESK และ Nokia Networks ร่วมนำเสนอช่องทางสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างยานยนต์ผ่านเครือข่าย LTE ต่อนายอเล็กซานเดอร์ โดบรินด์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเยอรมนี ซึ่งนับเป็นการนำเสนอผลการดำเนินโครงการแรกที่เกิดขึ้นจาก “กฎบัตรว่าด้วยนวัตกรรมสำหรับการทดสอบระบบดิจิทัลบนทางหลวง A9” (Innovation Charter for the digital A9 motorway test bed)

(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20151109/285179 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20151109/285180 )

การนำเสนอผลงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลความเสี่ยงของรถยนต์บนทางหลวงผ่านเครือข่าย LTE ของ Deutsche Telekom เนื่องจากช่องทางการรับส่งข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุด เครือข่ายบางส่วนของ Deutsche Telekom จึงได้มีการติดตั้งเทคโนโลยี Mobile Edge Computing อันล้ำสมัยของ Nokia Networks เช่นเดียวกับเทคโนโลยีตรวจจับตำแหน่งที่พัฒนาขึ้นโดย Fraunhofer ESK การรวมพลังครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสเป็นครั้งแรกในกรณีที่รถยนต์สองคันสามารถรับส่งสัญญาณระหว่างกันได้ในเวลาไม่ถึง 20 มิลลิวินาที นอกจากนี้เมื่อมีการผนวกรวมกับส่วนอินเทอร์เฟซอิเล็กทรอนิกส์ที่ทาง Continental ได้พัฒนาขึ้นแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดการใช้งานในรูปแบบต่างๆที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่

อเล็กซานเดอร์ โดบรินด์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างระบบดิจิทัลพื้นฐานแห่งเยอรมนี กล่าวว่า: “ตามแผนงาน ‘digital A9 motorway test bed’ นั้น เราได้คิดค้นระบบที่มีความเป็นกลางทางเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมและการวิจัย ซึ่งบริษัทผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆสามารถทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติผ่านเครือข่ายในสภาพการขับขี่จริงบนทางหลวง โดยเราพร้อมนำผลที่ได้จากห้องปฏิบัติการมาปรับใช้บนท้องถนนจริง การนำเสนอผลงานครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในแง่ของช่องทางสื่อสารระหว่างยานยนต์ ผ่านการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ความเร็วสูงด้วยศักยภาพที่แทบจะเทียบเท่า 5G ด้วยเหตุนี้เราจึงพร้อมก้าวกระโดดสู่ยุคดิจิทัลแบบเรียลไทม์บนท้องถนน ซึ่งจะส่งผลให้การจราจรเป็นเรื่องที่คาดคะเนได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับบรรดาผู้ขับขี่ และจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและการเกิดอุบัติเหตุ โครงการดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า เยอรมนีกำลังปูทางสู่ยุค Mobility 4.0 แห่งโลกดิจิทัล และเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนให้ระบบที่ได้รับการทดสอบบนทางหลวงเยอรมนีนี้ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐานสากล”

ทิม ฮัตเกส ซีอีโอของ Deutsche Telekom กล่าวเสริมว่า: “ระบบดิจิทัลโมบิลิตี้จำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีความรวดเร็วซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เราปรารถนาที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นแนวหน้าของยุโรป และนั่นเป็นเหตุผลที่เรายืนอยู่แถวหน้าในการพัฒนามาตรฐานใหม่ๆ ทั้งนี้ เราได้เข้ามามีบทบาทในแผน “digital A9 motorway test bed” เนื่องจากเราต้องการยกระดับความปลอดภัยในการขับขึ่ และช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการขับขี่อย่างมีนัยสำคัญ”

ราล์ฟ เลนนินเจอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมประจำฝ่ายระบบภายในของ Continental กล่าวว่า: “ที่ Continental เรามีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่าระบบอินเทอร์เน็ตนั้นช่วยยกระดับการทำงานของยานยนต์ผ่านหลักการที่เข้าใจได้ง่าย คือ ยิ่งตัวยานยนต์สามารถรับรู้ถึงปัจจัยแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้ใช้ถนนรายอื่นๆมากขึ้นเท่าใด อัตราการใช้พลังงานและอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนก็จะปรับตัวลดลงมากขึ้นเท่านั้น การสื่อสารแบบเรียลไทม์กับรถคันอื่นๆ ตลอดจนการสื่อสารกับท้องถนนและโครงสร้างการสื่อสารนั้น เปิดโอกาสให้ยานยนต์สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่ว่าจะด้วยตาหรือผ่านระบบตรวจจับในตัวรถเอง”

คาธริน บูวัค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Nokia Networks เสริมว่า: “เรากำลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ยุคที่ห้า เพื่อให้ลูกค้าของเราซึ่งรวมถึงบริษัท Deutsche Telekom สามารถรองรับกับอนาคตในยุค Industry 4.0 และ Internet of Things การเปลี่ยนโฉมสู่ยุคดิจิทัลในวงการยานยนต์นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี ซึ่งการสื่อสารในแวดวงนี้จำเป็นต้องสามารถใช้งานได้จริงแบบเรียลไทม์ และด้วยเทคโนโลยี Mobile Edge Computing ซึ่งทาง Nokia เป็นผู้นำการพัฒนา เราจึงมีการผนวกรวมองค์ประกอบต่างๆของระบบ 5G เข้ากับเครือข่าย LTE สมัยใหม่ พร้อมสนับสนุนการใช้งานในรูปแบบใหม่ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงได้เข้าไปมีบทบาทเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่สำหรับโลกอนาคต”

ศ.ดร.รูดี คนอร์ ผู้อำนวยการสถาบัน Fraunhofer ESK กล่าวว่า: “ระบบเครือข่ายที่มีความน่าเชื่อถือนั้นสามารถยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนนได้เป็นอย่างมาก และด้วยโครงการวิจัยของเราที่มุ่งเน้นในส่วนของการใช้งาน เราจึงมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถพัฒนาระบบเครือข่ายยานยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือได้อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งผนวกรวมเข้ากับระบบแนะนำการขับขี่ ที่จำเป็นต้องอาศัยช่องทางสื่อสารที่มีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพเมื่อทำงานแบบเรียลไทม์”

ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี

โครงการดังกล่าวเป็นการยกระดับเครือข่าย LTE ของ Deutsche Telekom ที่มีอยู่เดิมตามทางหลวง A9 ด้วยเทคโนโลยี Mobile Edge Computing จาก Nokia Networks โดยได้มีการปรับปรุงสถานีฐาน LTE ด้วยปลั๊กอินโมดูล (ในชื่อ “Cloudlets”) ซึ่ง Cloudlet เหล่านี้ทำหน้าที่จัดเส้นทางให้มีการรับส่งข้อมูลภายในเซลล์ แทนการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือบนระบบคลาวด์ ทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดเวลาหน่วงแบบต้นทางถึงปลายทาง (End-to-end latency) ได้เป็นอย่างมากจนเหลือไม่ถึง 20 มิลลิวินาที ซึ่งหากไม่มีเทคโนโลยีใหม่นี้แล้ว การรับส่งสัญญาณระหว่างยานยนต์ผ่านเครือข่าย LTE และระบบคลาวด์ส่วนกลางนั้นอาจใช้เวลามากถึง 100 มิลลิวินาทีแม้ในกรณีที่เอื้ออำนวยที่สุด และอาจนานกว่าหลายร้อยมิลลิวินาทีเมื่อเงื่อนไขไม่เอื้ออำนวย ความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนผ่านเครือข่ายมือถือนั้น เกิดขึ้นจริงได้ก็ต่อเมื่อมีระบบการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วเช่นนี้
สำหรับยานยนต์ที่ใช้ในการทดสอบนั้น ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ติดรถ (On-board unit) ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบยานยนต์และสื่อสารกับเครือข่าย LTE ผ่านโมดูลไร้สาย โดยทาง Continental เป็นผู้พัฒนาส่วนอินเทอร์เฟซให้กับตัวรถผ่านระบบ CAN bus และซอฟต์แวร์บนแท็บเล็ต ส่วน Fraunhofer ESK เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาซอฟต์แวร์ GeoService ซึ่งทำหน้าที่บันทึกและประมวลข้อมูลตำแหน่งของยานยนต์โดยตรงที่สถานีฐาน LTE ขณะที่ระบบทำงานด้านภูมิศาสตร์ที่สถานีฐานเครือข่ายมือถือจะทำหน้าที่แจ้งเตือนเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ไปยังรถทุกคันในบริเวณนั้นๆ

สื่อมวลชน กรุณติดต่อ

Nokia Networks
แบร์นฮาร์ด ฟุเคิร์ต (Bernhard Fuckert)
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
โทร: +49-162-2836967
อีเมล: bernhard.fuckert@nokia.com

Fraunhofer Institute for Embedded Systems and Communication Technologies ESK
ซูซาน โบเมอร์ (Susanne Baumer)
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
โทร: +49-89-547088-353
อีเมล: susanne.baumer@esk.fraunhofer.de

Deutsche Telekom AG
คริสเตียน ฟิสเชอร์ (Christian Fischer)
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: +49-228-181-94463
อีเมล: christian.fischer03@telekom.de

Continental
แผนกสื่อสารภายนอกประจำฝ่ายระบบภายใน
เซบาสเตียน ฟิลเลนเบิร์ก (Sebastian Fillenberg)
โทร: +49-6196-87-3709
อีเมล: sebastian.fillenberg@continental-corporation.com

แหล่งข่าว: Nokia Networks

Continental, Deutsche Telekom, Fraunhofer ESK, and Nokia Networks Show First Safety Applications at "digital A9 motorway test bed."  Editorial use only in direct correlation with Deutsche Telekom AG. (PRNewsFoto/Nokia Networks)
Continental, Deutsche Telekom, Fraunhofer ESK, and Nokia Networks Show First Safety Applications at “digital A9 motorway test bed.” Editorial use only in direct correlation with Deutsche Telekom AG. (PRNewsFoto/Nokia Networks)
อินโฟเควสท์ เป็นสำนักข่าวออนไลน์ ด้านเศรษฐกิจและการเงิน ข่าวสารจากสื่อหนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย ผลิตและรายงานข่าวเศรษฐกิจ หุ้น การเงิน การลงทุน และข่าวต่างประเทศในรูปแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุน