ภาค เกษตรกรรมชนบทของประเทศไทย ซึ่งทั่วโลกต่างยอมรับในเรื่องของผลผลิตอันหลากหลายตั้งแต่ข้าวไปจนถึงไม้ กฤษณานั้น กำลังก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการสนับสนุนจาก Asia Plantation Capital ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการทำอุตสาหกรรมไม้กฤษณามาเป็นร้อยๆปี โดยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันกฤษณาและชิ้นไม้สับไปยังนานาประเทศตั้งแต่จีนไปจนถึง ตะวันออกกลาง ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ไทยมีส่วนแบ่งในตลาด (เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชีย) ค่อนข้างน้อย ขณะที่มาเลเซียนั้น มีส่วนแบ่งตลาดไม้กฤษณาโลกถึง 50% ตามข้อมูลจากอนุสัญญา CITES
แต่ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะ Asia Plantation Capital ประสบความสำเร็จในก่อตั้งพื้นที่ปลูกไม้กฤษณาใหม่กว่า 3,000 ไร่ในประเทศไทย อันเป็นผลพวงจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยของบริษัท ประกอบกับการลงทุนแบบรับซื้อคืนตามโรงงาน รวมถึงการแปรรูปไม้สู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ที่จะถูกส่งต่อไปยังสำนักงานและเครือข่ายจัดจำหน่ายในตลาดหลักๆทั่วโลก พร้อมส่งตรงถึงลูกค้าและผู้ค้าส่งทั้งในลอนดอน ปารีส เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ และดูไบ บริษัทกำลังเดินหน้าพลิกโฉมอุตสาหกรรมไม้กฤษณาทั่วเอเชีย ผ่านขั้นตอนการตัดไม้กฤษณาอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกต้นใหม่อย่างน้อย 2 ต้นเพื่อทดแทนต้นเดิมที่ถูกตัดไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตปีต่อปี
เมื่อ ไม่นานมานี้ น้ำมันกฤษณาจากพื้นที่เพาะปลูกของบริษัท ได้กลายเป็นดาวเด่นในการประชุม World Perfumery Congress ครั้งล่าสุด ณ เมืองเดอวิลล์ ประเทศฝรั่งเศส โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นน้ำมันล็อตแรกที่ผลิตจากพื้นที่เพาะปลูกแล้วมี องค์ประกอบหลักๆของน้ำมันที่ได้คุณภาพ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นหากจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากเงินทุนวิจัยอันมหาศาล (และต่อเนื่อง) ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยา ศาสตร์ของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยเหล่านักวิชาการชั้นนำของเอเชียในอุตสาหกรรมไม้กฤษณา รวมถึงศาสตราจารย์ผกามาศ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คุณ แบร์รี่ รอว์ลินสัน ซีอีโอของ Asia Plantation Capital กล่าวว่า “อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งที่พบในการผลิตน้ำมันกฤษณาจากธรรมชาติเพื่อนำไปใช้ ในอุตสาหกรรมน้ำหอมและเครื่องสำอางทั่วโลกคือ การรักษาคุณภาพของน้ำมันให้คงที่ ซึ่งเป็นเรื่องยากเพราะธรรมชาติเอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วนน้ำมันที่ผลิตจากโรงกลั่นในแต่ละพื้นที่และในแต่ละวันนั้นมีความแตกต่าง กันเป็นอย่างมาก อันเป็นผลจากกรรมวิธีการผลิตและมาตรฐานที่ใช้ไม่เหมือนกัน ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมงานกับคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์จากประเทศไทย มาเลเซีย และจีน (รวมถึงคณะที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญจากสวิตเซอร์แลนด์และตะวันออกกลาง) เราจึงได้รับรู้ถึงกระบวนการสำคัญๆ ซึ่งทำให้เราสามารถนำเสนอน้ำมันคุณภาพสูงและมีมาตรฐานคงที่ให้แก่อุตสาหกรรม ได้ เราตระหนักดีว่าส่วนประกอบของน้ำมันที่ต่างไปแม้เพียงน้อยนิด อาจทำให้คุณภาพน้ำมันเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำหอมชั้นดีที่ผลิตจากน้ำมัน ดังกล่าวเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถผลิตน้ำมันที่ได้รับการรับรองจาก IFRA (สมาคมน้ำหอมโลก) และเท่าที่เราทราบ น้ำมันของเราเป็นน้ำมันรายเดียวที่ผลิตในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง มาตรฐานดังกล่าว พร้อมด้วยเอกสารข้อมูลความปลอดภัย MSDS และใบรับรองจาก CITES ในแต่ละล็อตการผลิต รวมทั้งได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์จากสหภาพยุโรปอีกด้วย เราต้องการแบ่งปันความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้ร่วมกับบรรดาเกษตรกรและโรงกลั่น ในพื้นที่ชนบทอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกเคียงข้างมาเลเซียและประเทศ อื่นๆในเอเชีย ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันกฤษณา ชิ้นไม้สับ และกำยานคุณภาพดี”
อีกหนึ่งหลักฐานซึ่งตอกย้ำคุณภาพ อันคงที่ของน้ำมันจาก Asia Plantation Capital คือ การที่ผลิตภัณฑ์น้ำหอมชั้นดีซึ่งผลิตจากน้ำมันกฤษณาจากพื้นที่เพาะปลูกและ โรงกลั่นของบริษัทนั้น ติดอันดับ 10 สุดยอดน้ำหอมใหม่ทั่วโลกในงาน “The International Art and Olfactory Awards” ซึ่งจัดขึ้นที่ลอสแองเจลิส น้ำหอมดังกล่าวถูกผลิตขึ้นโดยพันธมิตรของบริษัทอย่างแบรนด์น้ำหอมสุดหรู “Fragrance Du Bois” ด้วยฝีมือของ Francois-Merle-Baudoin ผู้ผลิตน้ำหอมชาวฝรั่งเศสรุ่นที่ 5 น้ำหอมนี้กำลังได้รับความนิยมในตะวันออกกลาง ยุโรป และรัสเซีย ด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยกฤษณาและกุหลาบบริสุทธิ์ (น้ำมันหอมระเหยสองชนิดที่มีราคาแพงที่สุด) ที่สร้างสรรค์ความหอมอันน่าทึ่งและทรงพลัง กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์นี้ได้ช่วยให้ Fragrance Du Bois ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่เติบโตเร็วที่สุดรายหนึ่งของโลก โดยมีบูติกของตัวเอง (และธุรกิจผลิตน้ำหอมตามความต้องการของลูกค้า) ณ เมืองกราสส์ เมืองหลวงแห่งน้ำหอมของโลก ในโกตดาซูร์ ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนั้นยังมีบูติกอยู่ที่โรงแรม Fullerton Heritage Hotel ในสิงคโปร์ และศูนย์การค้า The Starhill Gallery ที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ส่วนบูติกที่กรุงเทพฯ ในโรงแรม Intercontinental Plaza ก็มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และยังมีบูติกแห่งใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ ณ ห้าง Dubai Mall ตลอดจนมีแผนเปิดตัวบูติกใหม่ในฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ รวมถึงทั่วประเทศจีนและตะวันออกกลางในปีหน้าด้วย ขณะเดียวกันตลอดปีที่แล้ว ทางแบรนด์ได้เข้าร่วมงานต่างๆมากมาย เช่น งาน The Arab Womens’ Awards, Exsence ในมิลาน, London Bridal Show, Beauty World Middle East, Luxury World Middle East, World Perfumery Congress, Chartwell Luxury, Tatler และ Formula 1 Grand Prix ในสิงคโปร์ รวมถึงในอาบูดาบีและโมนาโก ในฐานะน้ำหอม Amber Lounge Fragrance อย่างเป็นทางการ อันนำไปสู่ความร่วมมือกับมูลนิธิ Prince Albert of Monaco Foundation ซึ่งให้การสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และมีสายสัมพันธ์อันดีกับมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายแห่งในประเทศไทย นอกจากนี้ Fragrance Du Bois ได้สร้างสรรค์น้ำหอมคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อสนับสนุนมูลนิธิ FPA2 Foundation รวมทั้งสร้างสรรค์น้ำหอมร่วมกับคนดังและน้ำหอมที่ผลิตความต้องการของลูกค้า อีกมากมาย เช่น David Haye อดีตแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวทและครูเซอร์เวท เป็นต้น โดยน้ำหอมเหล่านี้ต่างมีส่วนผสมของน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ที่ผลิตในประเทศไทย โดย Asia Plantation Capital
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ Asia Plantation Capital ก้าวขึ้นเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันกฤษณาจากธรรมชาติที่ได้รับความไว้วางใจจาก บรรดาผู้ผลิตน้ำหอมและบริษัทจากนานาประเทศ นอกเหนือจากในตะวันออกกลาง และช่วยให้ผู้ผลิตได้สัมผัสกับน้ำมันคุณภาพดี ซึ่งเป็นน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ มีความหรูหราอย่างแท้จริง และผลิตจากประเทศไทย
สืบเนื่องจากความสำเร็จของ Asia Plantation Capital ในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้กฤษณาในประเทศไทย คุณแบร์รี่ รอว์ลินสัน ซีอีโอของบริษัท มีความภาคภูมิใจที่ได้มอบน้ำหอมรุ่นพิเศษ ผลิตจากน้ำมันกฤษณาไทยบริสุทธิ์ 100% ให้แก่หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ในงาน Bangkok Investment Expo 2014 (จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) กรุงเทพมหานคร
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Asia Plantation Capital เป็น เจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจเพาะปลูกและฟาร์มเชิงพาณิชย์อันหลากหลายในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ซึ่งอยู่ในเครือของ Asia Plantation Capital Group โดยจุดมุ่งหมายหลักของบริษัทคือ โครงการเพาะปลูกหลากประเภทในหลายวัฒนธรรม เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและความต้องการเชิงพาณิชย์ของประเทศที่ บริษัทดำเนินงานอยู่ หลักการดำเนินงานของบริษัทคือ การร่วมงานอย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนอันดีแก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรมรวมทั้งการลงทุน เพื่อดึงชุมชนเหล่านี้ให้ออกจากวงจรการตัดไม้ทำลายป่าและการตัดไม้อย่างผิด กฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบางพื้นที่ในเอเชีย ทั้งนี้ บริษัทจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 แม้ว่าได้มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545 ปัจจุบันเครือบริษัทมีโครงการเพาะปลูกและการเกษตรใน 4 ทวีป ได้แก่ โครงการดำเนินงานในขั้นต่างๆในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา โมซัมบิก แกมเบีย อเมริกาเหนือ และยุโรป
การส่งเสริมการใช้ไม้ที่ได้รับการรับรองนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งยังช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงต่อสู้กับปัญหาความยากจนในภูมิภาคป่าฝนเมืองร้อน และสำหรับวงการเดินเรือยอชต์ที่แสวงหาความเป็นเลิศและมีส่วนร่วมในการปกป้อง สิ่งแวดล้อมนั้น นี่เป็นอีกหนทางหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำไม้ที่ผิดกฎหมายมา ใช้กับเรือยอชต์
เกี่ยวกับ Fragrance Du Bois
Fragrance Du Bois เป็น แหล่งรวมน้ำหอมสุดหรูที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับแหล่งเพาะปลูกที่มีความยั่งยืนในเอเชีย เพื่อนำเสนอน้ำหอมที่ผลิตจากน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% สู่ตลาดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก Fragrance Du Bois เป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่มีจิตสำนึกที่ดี ด้วยการเสาะแสวงหาวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอย่างยั่งยืนจากทั่วโลก พร้อมร่วมงานกับบรรดาผู้ผลิตน้ำหอมชาวฝรั่งเศสเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อัน หลากหลาย อีกทั้งยังนำเสนอบริการผลิตน้ำหอมตามความต้องการของลูกค้า Fragrance Du Bois มีร้านจำหน่ายน้ำหอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก ทั้งในดูไบ ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อน้ำหอมที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
Fragrance Du Bois เป็นที่รู้จักในชื่อ Parfums Du Bois ในฝรั่งเศส และใช้ชื่อ Fragrance Du Bois ในตลาดที่ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสทั่วโลก
เกี่ยวกับ World Perfumery Congress
World Perfumery Congress (WPC) เป็น การประชุมของวงการน้ำหอมโลกที่จัดขึ้นทุกๆสองปี ภายในงานประกอบไปด้วยการให้ความรู้และการสร้างเครือข่าย ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลข่าวสารล่าสุดแก่บรรดาซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อขายในตลาดผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค ไปพร้อมกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
ติดต่อ:
Asia Plantation Capital Pte. Ltd.
50 Collyer Quay, #06-05 OUE Bayfront, Singapore 049321
โทร. +65-6222-3386
แฟกซ์: +65-6221-2197
อีเมล: pr@asiaplantationcapital.com
