สมาคมนักเคมีเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย เผยศักยภาพของประเทศไทยมีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นบิวตี้ฮับแห่งเอเซีย (Beauty & Wellness Hub of Asia) นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเครื่องสำอางโลก หรือ IFSCC 2011 กำหนดจัดวันที่ 31 ตค. – 2 พย.2554 นี้ ณ โรงแรมเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิล์ด สี่แยกราชประสงค์ โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)คาดว่ามีผู้เข้าประชุมทั้งผู้ประกอบการ นักวิจัย นักการตลาด จาก 58 ประเทศทั่วโลก เชิญชวนผู้ประกอบการในประเทศไทยร่วมจองบูธนิทรรศการ Beauty Week เพื่อโอกาสขยายธุรกิจการค้าและแสดงศักยภาพของประเทศไทยในตลาดโลก
รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ในฐานะประธานจัดงานประชุมเครื่องสำอางโลก และ นายกสมาคมนักเคมีเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “งานเครื่องสำอางโลก IFSCC 2011 ในปลายปีนี้ ภายใต้แนวคิด 3E คือ Effective, Economic, Ecological ซึ่งสื่อถึงเครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพซึ่งพิสูจน์ได้โดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ , ราคาคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีการวิจัยเครื่องสำอางตลอดจนแสดงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีโลก
ไฮไลท์ของงานเครื่องสำอางโลก IFSCC 2011 ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ 1.งานประชุมวิชาการ 58 ประเทศที่เป็นสมาชิก มีการนำเสนอเทรนด์และนวัตกรรมจากงานวิจัยเครื่องสำอางล่าสุดของโลก การจัดเวิร์คช้อปให้คำแนะนำวิธีการและขั้นตอนการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา 2.การจับคู่เจรจาธุรกิจ โดยกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 3.บริเวณบู้ธนิทรรศการ Beauty Week แสดงนิทรรศการเครื่องสำอางโลก ขณะนี้เปิดจองล่วงหน้าจำนวนกว่า 150 บูธ สำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทยด้านเครื่องสำอาง นวัตกรรม สุขภาพ ความงาม สปา สมุนไพร และอื่นๆ ผู้สนใจติดต่อ คุณรจนา โทร.02 -937-4377 , 089- 889-1002 หรือrojana@ifscc2011.com
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวทีและอีเว้นท์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ในช่วงนี้ทางสมาคมฯได้เดินทางไปประชาสัมพันธ์การจัดงานเครื่องสำอางโลกงานนี้ในประเทศต่างๆ เช่น การไปร่วมแถลงข่าวในงานแฟร์ In-Cosmetic เมืองมิลาน ในประเทศอิตาลี ซึ่งได้รับความสนใจและตอบรับอย่างดียิ่ง
รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ นายกสมาคมนักเคมีเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย และ ประธานจัดงานประชุมเครื่องสำอางโลก กล่าวถึง ตลาดเครื่องสำอาง และวัตถุดิบเคมีเครื่องสำอาง ว่า “เครื่องสำอางในยุคปัจจุบันกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไปแล้ว ครอบคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ทั้งแชมพู สเปรย์ เจลใส่ผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ครีมล้างหน้า สกินแคร์ ครีมบำรุงหน้า บอดี้ครีม รวมไปถึงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามสำหรับทุกเพศทุกวัย กระแสความนิยมทั่วโลกในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ทำให้ตลาดเครื่องสำอางเพื่อสุขภาพ และความงามมีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางในประเทศและส่งออกวัตถุดิบเคมีเครื่องสำอางจากสารสกัดจากธรรมชาติ พืชผัก พฤกษชาติ สมุนไพรของประเทศไทย ปี 2011ประมาณ 115,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดเครื่องสำอางในประเทศ 50,000 ล้านบาท และตลาดวัตถุดิบเคมีเครื่องสำอางจากพืชผัก พฤกษชาติ สมุนไพรในประเทศและส่งออกปีละกว่า 65,000 ล้านบาท นับเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย ปี 2010 ตลาดรวมเติบโตที่ 25% และคาดการณ์ว่า ปี 2011 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 30% , ส่วนเฉพาะตลาดส่งออกเครื่องสำอางและวัตถุดิบพืชสมุนไพรปี 2010เติบโต 36% และคาดการณ์ว่า ปี 2011 จะเติบโตมากขึ้นกว่า 35- 40%