“โดวาคิน” ระบบตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ใช้ในการก่ออาชญากรรม

FLASH PRESS
ฝากข่าว โดย :
 

 

   

        ในโลกปัจจุบันมีปัญหาสังคมที่สลับซับซ้อนและเหตุร้ายที่คุกคามชีวิตและความสงบสุขของประชาชน   ดังที่เราได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ   ในเหตุร้ายต่างๆมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอยู่เสมอ  และการตรวจพิสูจน์หลักฐานวัตถุพยานมักอาศัยด้วยตาและบุคคล  นี่เองเป็นแรงบันดาลใจให้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน ทำผลงานระบบตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ใช้ในการอาชญากรรมจากภาพถ่ายหัวกระสุนปืน  นวัตกรรมเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของสังคมไทย ที่กำลังจะก้าวเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

          (Asst.Prof.Dr.Pitak Thumwarin) สาขาวิศวกรรมป้องกันประเทศ  คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมนี้ กล่าวว่า ในปัจจุบันไทยมีการนำเข้าอาวุธปืนปีละนับแสนกระบอก และยังไม่มีการเก็บฐานข้อมูลประวัติของปืนแต่ละกระบอก  ยิ่งในก้าวที่เราจะเป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการเดินทางท่องเที่ยวของผู้คนที่หลากหลายภาษาและวัฒนธรรม   ความปลอดภัยและสงบเรียบร้อยของสังคมไทยเป็นสิ่งสำคัญ   นวัตกรรม โดวาคิน จึงเป็นก้าวสำคัญของไทย  ที่เราจะสร้างฐานข้อมูลของ Signature ของอาวุธปืนแต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นไว้ และในอนาคตเมื่อกรมการปกครองมีฐานข้อมูลของประชากรพร้อม เมื่อมีเหตุร้ายก็สามารถค้นหาได้เลย  และในอนาคตอาจออกกฎหมายให้ปืนทุกกระบอกต้องเก็บปลอกและหัวกระสุนเป็นข้อมูลไว้ ก่อนจำหน่าย เพราะปืนแต่ละกระบอกจะมีร่องรอยปลอกและร่องรอยกระสุนจากการยิงต่างกัน

         … “ โดวาคิน” เป็นระบบตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ใช้ในการก่ออาชญากรรมจากภาพถ่ายหัวกระสุนปืน(Firearm Identification System based on Bullet Image Analysis) เป็นนวัตกรรมด้านวิศวกรรมป้องกันประเทศ หรือที่เรียกว่า Defence Engineering   โดยเราได้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เมื่อมีการก่ออาชญากรรมหรือคดีทางกฎหมายเกิดขึ้น โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางอาวุธปืน จะต้องมีการพิสูจน์หลักฐาน พยานวัตถุจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อสืบตัวไปหาคนร้าย ซึ่งอาวุธที่คนร้ายนิยมใช้ก่อเหตุคืออาวุธปืน  และหนึ่งในหลักฐานทางพยานวัตถุที่สำคัญของอาวุธปืนคือ กระสุนปืน  เช่น คดีโจ๊ก ไผ่เขียว  ที่ดังไปทั่วประเทศ มีการค้นหาสืบสาวถึงตัวคนร้ายได้จากร่องรอยบนปลอกและกระสุนปืน 

            กระสุนปืนมีส่วนประกอบที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้อยู่ 2 ส่วนคือหัวกระสุนปืน (Bullet) และปลอกกระสุนปืน (Cartridge case)    สำหรับปลอกกระสุนปืนจะมีร่องรอยที่เกิดขึ้นอยู่ 2 รูปแบบนั้นคือ รอยที่เกิดจากเข็มแทงชนวน (Firing pin mark) และรอยที่เกิดจากจานท้ายกระสุนปืนกระแทกกับแป้นปิดท้ายรังเพลิง (Breech face impression)

         …ส่วน ร่องรอยคุณลักษณะบนหัวกระสุนจะเกิดขึ้น ณ เวลาที่ลูกกระสุนได้ถูกยิงออกจากอาวุธปืน ลักษณะมากมายหลายอย่างภายในร่องรอยเหล่านี้สามารถนำมาใช้แยกแยะได้ และในการนำมาใช้ร่วมกันจะเสมือนกับเป็น  Signatuer หรือ รอยนิ้วมือใช้สำหรับการบ่งชี้อาวุธปืน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น แทนการใช้สายตา  การดำเนินคดีและการพิสูจน์ทราบเป็นไปด้วยความรวดเร็ว  นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง  ส่งผลดีต่อความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน  ความสงบสุขของสังคม และความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวม”

            งานนวัตกรรมนี้แสดงถึงระบบตรวจวิเคราะห์อาวุธปืนโดยพิจารณาคุณลักษณะเชิงพื้นผิวของภาพถ่ายหัวกระสุนปืน ในขั้นแรกจะเป็นกระบวนการหาลักษณะหยาบๆที่สามารถนำมาใช้ในการแบ่งประเภทของกระสุน ออกจากกันได้ โดยใช้ Hough Transform และการแบ่งส่วนแบบ Binary-tree เพื่อหาเส้นขอบของร่องสันและร่องเกลียว จากนั้นจึงหาค่าคุณลักษณะจากเส้นที่ได้มาเหล่านี้ ในขั้นตอนถัดมาเป็นการวิเคราะห์คุณลักษณะเชิงพื้นผิวของภาพด้วยสองวิธีที่แตกต่างกันคือ สเปคตรัมกำลังในสองมิติและ GLCM แล้วนำผลลัพธ์มาเปรียบเทียบกันเพื่อหาวิธีที่มีความเหมาะสมมากกว่า สุดท้ายคือการออกแบบระบบที่ให้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการวิเคราะห์ และสามารถใช้งานได้จริงด้วยต้นทุนที่ต่ำประมาณ 2 แสนเศษ  สามารถประหยัดงบประมาณที่ประเทศไทยต้องนำเข้าเครื่องตรวจพิสูจน์ซึ่งมีราคาสูงถึงเครื่องละ 40 -50 ล้านบาท จากต่างประเทศ

             ผศ.ดร.พิทักษ์ กล่าวเสริมว่า “ ประเทศไทยกำลังจะก้าวเป็นฮับของการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และพาณิชยกรรม  ผู้คนจากอาเซียนและทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามา  ความปลอดภัยจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำรงชีวิตและเศรษฐกิจในยุค AEC  ด้วย   การออกกฏหมายดำเนินการเก็บข้อมูลที่เป็นลักษณะเฉพาะของปืนทุกกระบอกที่จะออกจำหน่ายในท้องตลาดนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะทำด้วย  ”

                                                            ————————-

PR AGENCY      :      บ.เบรนเอเซีย คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (BrainAsia Communication)

Tel.                :      ประภาพรรณ 081-899-3599, 02-911-3282 

Fax.                :      02-911-3208      E-mail :  brainasiapr@hotmail.com   Website :  www.brainasia.co.th