วอร์ซอ, โปแลนด์–31 ม.ค.–พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์
ให้การรักษาผู้ป่วยทั่วโลก ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 366 ล้านคนจ่ายค่ารักษาน้อยลง
แอคทาวิส (Actavis) และ ไบโอตัน (Bioton) (WSE:BIO) ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการพัฒนาและขึ้นทะเบียนอินซูลินชนิดต่างๆ ซึ่งรวมถึงอนาล็อกอินซูลิน (analogue insulins) โดยไบโอตันจะรับผิดชอบเรื่องการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์อินซูลินต่างๆ ขณะที่แอคทาวิสได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวภายใต้แบรนด์แอคทาวิสทั่วสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงในอัลบาเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โครเอเชีย ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น โคโซโว ลิกเตนสไตน์ มาเซโดเนีย มอนเตเนโกร นอร์เวย์ เซอร์เบีย และสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับในโปแลนด์นั้น ทั้งสองบริษัทจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินซูลินต่างๆ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง ทั้งนี้ ไบโอตันเป็นบริษัทสัญชาติโปแลนด์
ริสซาร์ด ครอซ (Ryszard Krauze) ประธานคณะกรรมการอำนวยการบริษัทไบโอตัน และ คลอดิโอ อัลเบรชท์ (Claudio Albrecht) ซีอีโอบริษัท แอคทาวิส กรุ๊ป และประธานคณะกรรมการบริหารแอคทาวิส เป็นผู้แถลงข่าวดังกล่าวร่วมกันในวันที่ 30 มกราคม ที่กรุงวอร์ซอ
แอคทาวิสตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ไบโอตันคิดเป็นมูลค่ารวม 55.5 ล้านยูโร โดยจ่ายก่อน 22.25 ล้านยูโรในการลงนามข้อตกลงในวันที่ 30 มกราคม ส่วนที่เหลือ (33.25 ล้านยูโร) จะผ่อนชำระเป็นงวด ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงว่าด้วยขั้นตอนการขึ้นทะเบียนอินซูลิน recombined human insulin (RHI)
จากการประเมินยอดขายโดยทั้งสองบริษัทพบว่า รายได้ที่แอคทาวิสจะได้จากการขายผลิตภัณฑ์อินซูลินในช่วง 7 ปีแรกนับจากการเปิดตัว น่าจะทะลุ 1.5 พันล้านยูโร ทั้งนี้ ข้อตกลงระบุว่า กำไรจากการขายผลิตภัณฑ์อินซูลินโดยแอคทาวิส รวมถึงต้นทุนการพัฒนาและขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อินซูลินของไบโอตันนั้น ทั้งสองบริษัทจะแบ่งกัน 50/50
นอกจากการทำข้อตกลงข้างต้นแล้ว ไบโอตัน กรุ๊ป ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับแอคทาวิส สำหรับการขายอินซูลินชนิดต่างๆ ในอีก 24 พื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงตุรกีและออสเตรเลีย โดยแอคทาวิสจะจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติมสูงสุด 1.9 ล้านยูโร โดยจ่ายก่อน 1 ล้านยูโรในการลงนาม ทั้งสองฝ่ายคาดว่าแอคทาวิสจะเริ่มขายผลิตภัณฑ์ RHI ของไบโอตันในพื้นที่เพิ่มเติมบางส่วนภายในช่วงสิ้นปี 2555 ถึงต้นปี 2556 กำไรจากการขายผลิตภัณฑ์อินซูลินในพื้นที่เพิ่มเติมเหล่านี้จะถูกแบ่ง 50/50 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ กระบวนการจัดการเอกสารอย่างเป็นทางการน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
คลอดิโอ อัลเบรชท์ ซีอีโอแอคทาวิส เชื่อมั่นว่าการสร้างความร่วมมือครั้งใหม่จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้แก่แอคทาวิสและไบโอตัน รวมถึงผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท “เฉพาะรีคอมบิแนนท์อินซูลิน (recombinant insulins) และอนาล็อกอินซูลิน น่าจะเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรของเราราว 900 ล้านยูโร (1.2 พันล้านดอลลาร์) การทำข้อตกลงความร่วมมือกับไบโอตันจะช่วยผลักดันให้เราเป็นผู้นำด้านการผลิตอินซูลิน ซึ่งรวมถึงอนาล็อกอินซูลิน” นายอัลเบรชท์ กล่าว
ริสซาร์ด ครอซ ประธานคณะกรรมการอำนวยการบริษัท ไบโอตัน เอส.เอ. กล่าวว่า “การสร้างความร่วมมือกับแอคทาวิสมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับไบโอตัน เราจะร่วมกันนำเสนออินซูลินใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงอนาล็อกอินซูลิน ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเราเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างความร่วมมือกับบริษัทยาชั้นนำของโลกหลายแห่ง อาทิ ไบเออร์ เฮลธ์แคร์ (Bayer HealthCare) ในประเทศจีน และแกล็กโซสมิทไคล์น (GlaxoSmithKline) ในรัสเซีย เป็นต้น วันนี้ เรายินดีที่ได้บริษัทยารายใหญ่อย่างแอคทาวิส มาเป็นพันธมิตรคนสำคัญของเรา”
เบาหวาน – โรคระบาดระดับโลก
ข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่โดยสมาพันธ์โรคเบาหวานสากล (IDF) ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคเบาหวานกว่า 366 ล้านคนทั่วโลก การรับประทานอาหารไม่เหมาะสมและรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้โรคเบาหวานระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทะลุ 550 ล้านรายภายในปีพ.ศ.2573 ขณะเดียวกันองค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่าตลาดอินซูลินโลกจะขยายตัวจากระดับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน สู่ระดับ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปีดังกล่าว
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ต้องทานยาเกือบ 30 ชนิดตลอดเวลาที่เป็นโรค อย่างไรก็ดี คลอดิโอ อัลเบรชท์ กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือกับไบโอตันช่วยสร้างแนวคิดการรักษาโรคเบาหวานที่มีมูลฐานและมีกลยุทธ์มากขึ้น
“ความคิดเรื่องเบาหวานของเราไม่ใช่แค่การโฆษณาและขาย RHI หรืออนาล็อกอินซูลินเท่านั้น” เขากล่าว “เราต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่ๆในตลาดอินซูลิน เรามีความได้เปรียบในการแข่งขันอยู่แล้ว และเราต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผลิตภัณฑ์อินซูลินของไบโอตันอยู่ยืนยงในตลาดมานานกว่า 10 ปีด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยชั้นเลิศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้เราข้ามผ่านข้อกังขาต่างๆได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม หากถูกบรรดาผู้นำทางความคิดตั้งคำถามเรื่องสาร biosimilar”
“นอกจากนั้นเรายังแตกต่างอย่างมากจากผู้คิดค้นรายอื่นๆ” นายอัลเบรชท์ กล่าวย้ำถึงผลิตภัณฑ์ยารับประทานสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ที่มีอยู่หลากหลายชนิดและแอคทาวิสทำการจัดจำหน่ายแล้ว ทั้งนี้ แอคทาวิสนำเสนอผลิตภัณฑ์มากมาย ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ “gliptin” ที่มีมูลค่าสูง รวมถึงยา Metformin ผสมกับยาตัวอื่นในเม็ดเดียว
ให้การรักษาแบบครบวงจร
นายอัลเบรชท์ กล่าวว่า มีโอกาสสูงมากในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่าเดิมสำหรับรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน “แอคทาวิสเป็นบริษัทเดียวที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคเบาหวานและโรคที่เกี่ยวข้องได้หลากหลายมากขนาดนี้ เราบอกลูกค้าได้เลยว่าเรามียาครอบคลุมตลาดเบาหวานในราคาที่อาจถูกกว่าที่ลูกค้าเคยจ่ายมาตลอดอย่างมาก”
สลาโวเมียร์ ซีเกิร์ต (Stawomir Ziegert) ซีอีโอของไบโอตัน เอสเอ กล่าวว่า “สำหรับไบโอตันแล้ว การสร้างความร่วมมือกับแอคทาวิสก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการเงินโดยตรง กระตุ้นให้เกิดการขยายธุรกิจสู่ตลาดที่มีกำไรสูงอย่างรวดเร็ว รวมถึงส่งเสริมการใช้กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และกระตุ้นการเติบโตในตลาดโรคเบาหวานและหัวใจ ผู้ป่วยจำนวนมากเห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์รักษาที่ครอบคลุมและโดดเด่นซึ่งนำเสนอโดยไบโอตัน ซึ่งประกอบด้วยอินซูลิน อุปกรณ์ฉีดอินซูลิน เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด ยารับประทาน และโปรแกรมการให้ความรู้เรื่องเบาหวาน องค์ประกอบเหล่านี้สร้างโอกาสในการขยายความร่วมมือกับแอคทาวิสในตลาดต่างๆทั่วโลก”
ติดต่อ:
แอคทาวิส กรุ๊ป
แฟรงค์ สต็อด (Frank Staud)
รองประธานบริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร
มือถือ: +41-79-230-95-78
อีเมล: fstaud@actavis.com
แหล่งข่าว: แอคทาวิส กรุ๊ป