เปิดฉากงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังแห่งปี BIFF& BIL

FLASH SALE
ฝากข่าว โดย :

โชว์ศักยภาพสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังไทยแบบครบวงจร คาดยอดเงินสะพัดกว่า 700 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ 15 กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทย จัด “งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนังปี 2555” (Bangkok International Fashion Fair & International Leather Fair 2012 : BIFF&BIL 2012) ระดมผู้ประกอบการชั้นนำกว่า 700 คูหา 500 บริษัท โชว์ศักยภาพสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังไทยแบบครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ “ASEAN INTEGRATION : SUCCESS & BEYOND” ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดยอดเงินภายในงานสะพัดกว่า 700 ล้านบาท และมีนักธุรกิจและผู้ที่สนใจทั้งไทยและเทศเข้าชมงานในปีนี้ถึง40,000 คน มั่นใจศักยภาพของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทย ผนวกกับความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียน จะส่งผลให้อาเซียนเป็นแหล่งรวมสินค้าและเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่นที่สำคัญของตลาดโลกต่อไป

BIFF& BIL
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดงาน

นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายในการสนับสนุนผู้ประกอบการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังโดยมุ่งหวังให้งาน ‘BIFF&BIL 2012’ เป็นงานแสดงสินค้าที่จะโชว์ศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและเป็นศูนย์กลางการผลิตการส่งออกที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียนและของโลกในโอกาสต่อไป โดยให้กรมส่งเสริมการส่งออก จัดกิจกรรมสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังให้เติบโตยิ่งขึ้น

นางนันทวัลย์ ศกุตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า “จากนโยบายดังกล่าวข้างต้น กรมส่งเสริมการส่งออกจึงร่วมขานรับนโยบาย โดยได้สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทยอย่างครบวงจรตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ อุตสาหกรรมกลางน้ำ และอุตสาหกรรมปลายน้ำ  รวมทั้งมีส่วนช่วยผลักดันมูลค่าการส่งออกสินค้ามาตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งในปัจจุบันสินค้าในกลุ่มแฟชั่น และเครื่องหนังเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้ในอันดับต้นๆ ให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง  และมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในช่วง 4 เดือน (ม.ค. – เม.ย.) ที่ผ่านมาของปี 2555 กรมฯ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังรวมมูลค่ากว่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐ  ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของกรมฯ ที่สนับสนุนให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี นั่นก็คือ งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (The Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair หรือ BIFF&BIL)

“สำหรับในปีนี้งาน BIFF&BIL จะจัดอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ ‘งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนังปี 2555’ (The Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2012 หรือ BIFF&BIL 2012) ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับ 15 กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทย โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2555 ณ อาคารชาแลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี (วันเจรจาธุรกิจ 27-29 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก (สำหรับบุคคลทั่วไป) 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2555 เวลา 10.00 – 21.00 .ภายใต้แนวคิด “ASEAN INTERGRATION : SUCCESS & BEYOND” การหลอมรวมตลาดแฟชั่นและเครื่องหนังของไทยและภูมิภาคอาเซียนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยยังคงวัตถุประสงค์หลักของงาน นั่นคือ การเป็นเวทีเจรจาการค้าที่สำคัญในรูปแบบของการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) รวมทั้งมุ่งเน้นในเรื่องของการยกระดับและเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังไทย เนื่องจากกรมฯ มองว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทยถือว่ามีความเข้มแข็งและมีศักยภาพมากเพียงพอในการก้าวสู่การเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังในภูมิภาคอาเซียนโดยการสนับสนุนจากภาครัฐ และการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งของผู้ประกอบการ ซึ่งในปีนี้กรมฯ ยังได้เพิ่มเติมในเรื่องการเตรียมความพร้อมให้แก่ธุรกิจสำหรับรับมือกับการเข้าสู่การเปิดการค้าเสรีของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย

BIFF& BIL
พิธีเปิดยิ่งใหญ่งาน BIFF&BIL 2012

ทั้งนี้ผลตอบรับของการจัดงานในปีนี้นับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการตอบรับเข้าร่วมงานจากผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นและสินค้าเครื่องหนังชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศทั้งในกลุ่มอาเซียนและทั่วโลก อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี อิตาลี สหรัฐอเมริกา จีน ปากีสถาน ไต้หวัน เป็นจำนวนกว่า 500 บริษัท ร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 700 คูหา หลากหลายโซน  ไม่ว่าจะเป็น  โซนเครื่องหนัง โซนรองเท้า โซนเสื้อผ้าสำเร็จรูป โซนสิ่งทอผ้าผืน  โดยมีแบรนด์สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังชั้นนำของไทยและต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและทั่วโลกมากกว่า 1,000 แบรนด์  ซึ่งมีการจัดแสดงอย่างครบวงจรตั้งแต่กลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อันได้แก่ เส้นด้าย เส้นใย ใยสังเคราะห์ วัตถุดิบในการผลิตสินค้า การฟอกย้อม การทอ การตกแต่งสิ่งทอ การแสดงผ้าผืน  ผ้าไหมไทย  การออกแบบสร้างสรรค์ และการตัดเย็บ

นอกจากนี้ภายในงานจะมีการแสดงนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงานอันเป็นผลจากความร่วมมือของกรมส่งเสริมการส่งออก รวมทั้งผู้ประกอบการด้านสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังไทยและต่างชาติ ได้แก่ Japan Connect นิทรรศการแสดงสินค้าประเภทผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภายใต้ชื่อโครงการ JTC ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่น โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งมีบริษัทฯ ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้าร่วมแสดงผลงานอีกกว่า 10 คูหา Fashion Network โดยกรมฯ ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ดำเนินโครงการมาเป็นปีที่ 5 โดยเริ่มจากผู้ประกอบการประเภท OEM ซึ่งมีความประสงค์ที่จะสร้างแบรนด์ของตนเอง โดยมีที่ปรึกษาโครงการ เป็นนักออกแบบไทยและต่างชาติที่พักพิงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 9 แบรนด์ Thai Tex Trend  (T3)แสดงศักยภาพของผู้ผลิตผ้าผืนไทย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากประเทศอิตาลี  Designers’ Room เป็นโครงการส่งเสริมและต่อยอดนักออกแบบผู้มีพรสวรรค์ของไทย เพื่อก้าวไปเป็นผู้ส่งออกสินค้าแฟชั่นในอนาคตจำนวน 40 แบรนด์ Trend Forum รวบรวมสุดยอดนวัตกรรมและเทรนด์การผลิตสินค้าทั้ง สิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องหนังและรองเท้า Bangkok Society นิทรรศการที่รวบรวมเสื้อผ้า  คอลเลคชั่นใหม่จากดีไซน์เนอร์ชั้นนำของไทย Workshopแสดงผลงานจากการพัฒนาเทคนิคการออกแบบ การตัดเย็บอย่างสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ประกอบการไทย ให้ตรงกับความต้องการของตลาดโลกมากขึ้น International Zone การแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังชั้นนำ อาทิ ผ้าผืน เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า จาก 9 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย อินเดีย กัมพูชา มาเลเซีย จีน ฟิลิปปินส์ เกาหลี เวียดนาม และไต้หวัน และการแสดงแฟชั่นโชว์ จำนวนกว่า 21 รอบโชว์จากแบรนด์สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังชั้นนำอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

และสำหรับอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษของงานอย่างจะเป็นในส่วนการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีล่าสุดของอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นและสินค้าเครืองหนัง ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังไทยให้ก้าวไกลในฐานะผู้นำด้านแฟชั่นและเครื่องหนังในภูมิภาคอาเซียน อาทิ นวัตกรรมการผลิตสินค้าด้วยแนวคิดรักษ์โลกของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องหนังที่ใช้การฟอกย้อมสีด้วยสมุนไพรแทนการใช้สารเคมี  เทคโนโลยีการพิมพ์ผ้าในระบบ Inkjet  Printing , Coating  and  Lamination นวัตกรรม Eco – Green ที่ผ่านการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิตาลี  และพัฒนาร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยได้พัฒนาสิ่งทอและผ้าผืนต่าง ๆ จากวัสดุธรรมชาติ เพื่อการสวมใส่ได้สบายทั้งยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม การใช้คลื่นเสียง Ultrasonic เพื่อละลายเนื้อผ้าที่เป็นโพลีเอสเทอร์ให้เชื่อมติดกัน ไม่มีรอยตะเข็บ   เทคโนโลยีการพิมพ์เพื่อให้เสื้อผ้ามีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเสื้อผ้ากีฬา นวัตกรรมแฟชั่นในกลุ่มผสมซึ่งยังไม่เคยจัดแสดงมาก่อน เช่น งาน Hand made ในกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ให้มีความเหมาะสมลงตัวกับกลุ่ม Exotic Skin & Exotic Leather เป็นต้น

BIFF& BIL

เยี่ยมชมบูธเยี่ยมชมบูธ

เยี่ยมชมบูธ
เยี่ยมชมบูธ
“ทั้งนี้กรมฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดเงินสะพัดของการสั่งซื้อภายในงานช่วงวันเจรจาธุรกิจ และในวันซื้อขายปลีกทั่วไปกว่า 700 ล้านบาท และมีผู้เข้าร่วมชมงานในปีนี้ถึงกว่า 40,000 คน อีกทั้งคาดว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มแฟชั่นและเครื่องหนังในปี 2555 ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับจากการจัดงานในครั้งนี้จะส่งผลให้อาเซียนเป็นแหล่งรวมสินค้าและเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่นที่สำคัญของตลาดโลกต่อไปอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวให้ความเห็น
พลอย – เฌอมาลย์ ในชุด Finale โชว์ศักยภาพสินค้าแฟชั่นไทย

งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนังปี 2555 (The Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2012 : BIFF&BIL 2012)  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการส่งออก โทร 0-2507-8370, 0-2507-8369, 0-2507-8367, 0-2507-8368 สายด่วนกรมส่งเสริมการส่งออก 1169 หรือเว็บไซต์ www.biffandbil.com