เคล็ดลับพิชิตทุกปัญหาผิว ด้วย น้ำมันมะพร้าว

FLASH SALE
ฝากข่าว โดย :

แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีเครื่องสำอางแบรนด์ต่าง ๆมากมายที่แข่งขันกันผลิตเครื่องประทินโฉมให้สาวๆ คว้ามาบำรุงผิวหน้าและผิวกาย แต่ก็อย่ามองข้ามเครื่องสำอางที่สกัดจากธรรมชาติแท้ 100% อย่าง น้ำมันมะพร้าว ไปล่ะ เพราะนอกจากเราจะคุ้นเคยกับการดื่มน้ำมะพร้าวที่มีประโยชน์ว้าวๆแบบที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

 

น้ำมันมะพร้าว มาเป็นครีมทาหน้า ทาผิวแทนโลชั่น  น้ำมันมะพร้าวดีกับผิวหนังอย่างไร

น้ำมันมะพร้าว นิยมนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์บำรุงผิวหลายยี่ห้อ เนื่องจากวิตามินอีจากธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าวมีมาก  วิตามินอีจากน้ำมันมะพร้าว มีส่วนช่วยบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้นยาวนานและผิวนุ่มขึ้น ลดรอยแผลเป็น ได้อย่างดีเยี่ยม

เมื่อออกมาเป็นครีมทาหน้า    น้ำมันมะพร้าวเมื่อผสมออกมาเป็นเครื่องสำอางค์บำรุงผิวหน้า  จะคงเหลือวิตามินอีลดลงจากอัตราส่วนของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 50% เนื่องจากอัตราส่วนผสมของครีมบำรุงผิวนั้น ๆ มีส่วนผสมอื่น ๆ อีกหลายชนิด บ้างผสมสารหน้าขาว ผสมกรดผลไม้เพื่อผลัดผิว ซึ่งแล้วแต่สูตรของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น  ทาหน้า  โดยตรงดีกว่า ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเมื่อนำมาทาหน้าจะมีวิตามินอีสูง ทำให้หน้าได้รับสารอาหารและเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวเสียหาย เพราะเป็นสารต้นทางจากธรรมชาติ ข้อเสียคือ มีความมันและเหนียวจากน้ำมันนั่นเอง

ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว ต่อผิวของเรา

1 .ผิวดูอ่อนเยาวน์

น้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันอิ่มตัว ที่โมเลกุลมีความอยู่ตัวสูง จึงไม่เกิดการเติมออกซิเจน ที่เป็นตัวการของการเกิดอนุมูลอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันมะพร้าวยังมีแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยต่อต้านการเติมออกซิเจนที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เซลล์ได้รับอันตราย ช่วยกำจัดชั้นเซลล์ผิวหนังที่ถึงอายุขัย และตายทับถมกันจนผิวหนังแห้ง ให้หลุดออกไปจากผิวหนัง และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย ปราศจากรอยเหี่ยวย่น และอาการชราภาพก่อนวัย

2.ผิวนุ่ม ชุ่ม เนียน

น้ำมันมะพร้าวแทรกซึมเข้าไปใต้ผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพราะน้ำมันมะพร้าว เป็นสารตัวเดียวกันกับน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ในต่อมขุมขนใต้ผิวหนัง จึงช่วยทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม ชุ่มน้ำ และเนียน ซึ่งผิดกับเครื่องสำอาง ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันแร่หรือน้ำมันทานตะวัน ที่เพียงแต่นำน้ำเข้าไปสู่ผิวอย่างชั่วคราว ไม่นานก็ระเหยออกหมด และผิวก็จะกลับมาเหี่ยวย่นยิ่งไปกว่าเดิม
3. ป้องกันและรักษาฝ้า กระ จุดหรือรอยบุ๋ม

น้ำมันมะพร้าว มีกรดลอริก ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นโมโนลอริน ซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของฝ้า (รอยดำคล้ำ หรือปื้นสีน้ำตาลอ่อน) กระ (รอยสีน้ำตาลที่ไม่นูน) จุด หรือรอยบุ๋ม อีกทั้งยังมีสารต่อต้านการเติมออกซิเจน หรือแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผิวหนัง ซึ่งมาจากแสงแดด ผิวพรรณจึงปราศจากสิวฝ้า ฯลฯ

4. ป้องกันและรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน

น้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งมีหลายชนิด เช่นโรคผิวหนังที่เป็นผื่นแดง อักเสบ แสบคัน มีน้ำเหลือง และเกิดสะเก็ด และโรคผิวหนังติดเชื้ออื่น ๆ

5. ป้องกันและรักษาการเกิดไหม้เกรียมเพราะถูกแสงแดด

น้ำมันมะพร้าวช่วยป้องกันการอักเสบ หรือไหม้เกรียมของผิวหนัง เนื่องจากถูกแสงแดด เป็นเวลานาน เนื่องจากมีสารต่อต้านการเติมออกซิเจน ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น เราจึงใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นยากันแดดได้ดี อีกทั้งยังไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนยากันแดดส่วนมาก และราคาก็ถูกกว่าด้วย แต่น้ำมันมะพร้าวจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับน้ำมันที่ท่านบริโภค หากเป็นน้ำมันไม่อิ่มตัว เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด ฯลฯ จะทำให้ไหม้เกรียมเพราะถูกแดดได้ง่าย ถึงแม้ว่าท่านจะรับประทานน้ำมันมะพร้าวทุกวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน แต่ถ้าท่านบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวมามากก่อนหน้านั้น ผิวหนังของท่านก็จะมีน้ำมันไม่อิ่มตัวสะสมอยู่ ทำให้เกิดรอยไหม้เกรียมเมื่อถูกกับแสงแดดได้ง่าย

น้ำมันมะพร้าวสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ตั้งแต่ตลาด ร้านขายยาสมุนไพร  และ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป แต่หากใครสนใจน้ำมันมะพร้าวแต่ด้วยวิธีการและขั้นตอนที่ยุ่งยาก เราขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ สบู่แร่ภูเขาไฟ ลูซิก้า โวลคานิค จากแหล่งแร่ธาตุธรรมชาติใต้พื้นโลก ที่รวมเอาคุณค่าจากแร่ธรรมชาติมากกว่า 57ชนิด ผสมผสานกับ ประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นช่วยฟื้นฟูผิวพร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรง สวยจับ มีออร่า