ดันธุรกิจค้าไม้ใช้กฎหมายไม้ในประเทศไทย

FLASH SALE
ฝากข่าว โดย :

n20150922161637_37016 t20150922161709_37017

ดันธุรกิจค้าไม้ใช้กฎหมายไม้ในประเทศไทย

­          วันที่ 21 กันยายน 2558 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นกรุงเทพมหานคร – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานในพิธีเปิดโครงการประชุมเชิงการเสวนาเปิดตัวโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับนิยามความถูกต้องตามกฎหมายของไม้ในประเทศไทย” ครั้งที่ 1 เรื่อง การแก้ปัญหาการแก้ปัญหาการลักลอบค้าไม้ที่ผิดกฎหมายโดยกลไกการค้าสากลอย่างมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระกระบวนการจัดทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจในการใช้กฎหมายป่าไม้  การค้าไม้ และสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการจัดทำข้อตกลงในการเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจในการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้     และการค้า พร้อมนำผลการเสวนาไปใช้ในการดำเนินกระบวนการ FLEGT VPA (Forest, Law Enforcement, Governance and Trade Voluntary Partnership Agreement)

          นายธีรภัทร  ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวภายหลังการเปิดการประชุมว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการทำไม้ในประเทศไทย  โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ซึ่งจะจัดขึ้นอีกจำนวน 4 ครั้ง  ได้แก่ ขอนแก่น ราชบุรี สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ซึ่งผลจากการประชุมดังกล่าวจะนำมาสังเคราะห์และนำเสนอในการประชุมปิดโครงการที่จะจัดที่กรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง โดยข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่างๆ จะถูกนำมาหาบทสรุปและแนวทางการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมเพื่อเสนอภาครัฐดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตามในวันนี้ผู้แทนของทั้ง 3 ภาคส่วน ได้ยื่นข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการป่าไม้ในประเทศไทย  โดยมีประเด็นทั้งสิ้น 8 ประเด็นตั้งแต่เรื่อการปลูก การครอบครองของภาคประชาชนจนถึงการจัดจำหน่ายในภาคธุรกิจ ซึ่งข้อเสนอแนะดังกล่าวเป็นข้อเสนอแนะจากการประชุมคณะทำงานจัดทำนิยามความถูกต้องตามกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 6 ครั้งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน

“การให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียถือว่าเป็นการพลิกโฉมการทำงานของวงการป่าไม้ไทยเลยทีเดียว  ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินปัญหาเกี่ยวกับการปลูก  การตัดและการครอบครองที่ไม่ชัดเจนรวมถึงการนำเข้าส่งออกไม้ที่ยังเป็นที่คาใจของต่างประเทศเกี่ยวกับความถูกต้องและการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของไม้ ซึ่งหากประเทศไทยพัฒนาการควบคุม ตรวจสอบ รวมทั้งแก้ปัญหาที่ไม่ชัดเจนต่างๆ จะทำให้ความน่าเชื่อถือของไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ของไทยมีมากขึ้นในระดับสากล อันจะสะท้อนให้เห็นถึงความพระยายามของรัฐบาลไทยในการควบคุมการค้าไม้ที่ผิดกฎหมายอีกด้วย” นายธีรภัทร กล่าว

Related Posts