ยังไม่ทันได้ตั้งตัวที่เราอยู่ร่วมกับโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี ซึ่งวิกฤตครั้งนี้ดึงเอาชีวิตปกติของเราทุกคนออกไป เหลือไว้เพียงสภาวะยากลำบากที่ต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อความอยู่รอด รวมไปถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ซบเซา หลายกิจการต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบให้บริการ ส่งผลต่อรายได้ และความเป็นอยู่ของหลายครอบครัว
“ชุมชนตอนนี้ได้รับผลกระทบมาก บางคนไม่ได้ไปทำงาน เขาให้อยู่บ้าน รายได้จากเดิมก็ลดน้อยถอยลง ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย บางทีก็ไม่มีเงินจะซื้อข้าวกินด้วย”
“ตอนนี้ร้านต้องปิด ปิดเป็นเดือนแล้ว ในตลาดก็ปิด เพราะในซอยติด (โควิด) กันเยอะ ทำได้แต่รอให้โรคมันจางลง แต่มันก็เหมือนมีตัวตายตัวแทนกันนะ พอตรงนี้หาย ตรงนั้นก็โผล่มาเรื่อยๆ”
สองเสียงจากชุมชน 2 แห่งในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครฯ เล่าถึงชีวิตของเขาและเพื่อนร่วมชุมชน ที่ต้องทนอยู่กับสถานการณ์ยากลำบาก แต่ทว่าในภาวะวิกฤตทุกครั้ง เรามักได้เห็น ‘ความช่วยเหลือ’ ที่เป็นเหมือนกับน้ำใจเล็กๆ รวมกันจนเป็นพลังยิ่งใหญ่ มากพอจะประคับประคองเพื่อนคนไทย ให้ผ่านพ้นทุกวิกฤตการณ์ไปด้วยกัน
เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่ชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง 318 และชุมชนตรอกต้นโพธิ์ รวมไปถึงอีกกว่า 40 ชุมชนทั่วกรุงเทพมหานครฯ ได้รับการสนับสนุนจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เปรียบเสมือนที่พึ่งชุมชนในยามวิกฤต ด้วยเจตนารมณ์ของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ตั้งใจให้ร้านคู่ชุมชนอย่าง ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ และบริษัทในเครือ นำอาหารปรุงสุกจำนวน 2,000,000 กล่อง ส่งมอบสู่มือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ภายใต้โครงการ ‘ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19’ โดยจัดซื้ออาหารที่ปรุงใหม่สุกสะอาดตามหลักโภชนาการบรรจุกล่องถูกสุขอนามัยจากร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลางในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่สามารถเปิดร้านจำหน่ายอาหารได้ จำนวน 1 ล้านกล่อง และอีก 1 ล้านกล่องเป็นการสมทบอาหารจากเครือซีพีที่เป็นอาหารอุ่นร้อนพร้อมรับประทาน ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูอาหารแตกต่างกันในแต่ละวัน
ด้านมรว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ ‘คุณชายอดัม’ ผู้ก่อตั้งศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai หนึ่งในผู้ได้รับมอบอาหารปรุงสุกและหน้ากากอนามัย จากโครงการครัวปันอิ่มฯ เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กล่าวว่า ข้าวกล่องจำนวน 2 ล้านกล่องของครัวปันอิ่มฯ สามารถนำไปมอบให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ 35,000 คนต่อวัน ดูแลชุมชนแออัดตั้งแต่ขนาดเล็กที่มีคนในชุมชน 200-300 คน ไปจนถึงดูแลชุมชนขนาดใหญ่ที่ 5,000-7,000 คน สิ่งเหล่านี้ที่ส่งมาช่วยดูแลคนได้ครบทั้งชุมชน ช่วยให้คนออกจากบ้านน้อยลง นั่นแปลว่าความเสี่ยงต่างๆ ก็จะลดลงไปด้วย
“โครงการครัวปันอิ่มฯ เป็นโครงการที่ยอดเยี่ยมมากๆ พวกเขาเป็นกำลังในการช่วยเหลือประชาชน คอยช่วยส่งเสริมสนับสนุนโรงครัวต่างๆ ที่ทำอาหาร เพื่อแจกจ่ายไปยังผู้ประสบภัยหรือมีความยากลำบาก ขาดรายได้ ขาดเครื่องอุปโภคอยู่ตลอด ขอขอบคุณโครงการครัวปันอิ่มฯ มากครับ” คุณชายอดัม
“ดีใจมากและก็ต้องขอขอบคุณโครงการครัวปันอิ่มฯ และเซเว่น อีเลฟเว่นมากๆ เพราะตอนนี้คนลำบากและเดือดร้อนจริงๆ ค่ะ พอมีข้าวกล่องมาก็ช่วยแบ่งเบาภาระการอยู่การกิน ให้ชุมชน-ลูกเล็กเด็กแดงได้มีกับข้าวกิน โครงการแบบนี้อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ” เสียงขอบคุณจาก นางสมรส เสียงล้ำ ประธานชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง 318
“ตอนนี้ชุมชนได้รับผลกระทบหนักมาก ร้านรวงปิดกันเยอะ บางคนที่นี่เขาทำงานไม่ได้ ต้องเอาเงินทุนเก่าออกมาใช้ เพราะไม่มีรายได้แล้ว ได้เด็กอาสาสมัครเขามาส่งข้าว ส่งน้ำจากครัวปันอิ่มมาช่วย ทางชุมชนก็รู้สึกขอบคุณ และดีใจ ถือเป็นการช่วยเหลือคนไทยได้ดีมากๆ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน อย่าเพิ่งท้อ ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” นางสุวิมล ศรีโหมดสุข ชุมชนตรอกต้นโพธิ์
ในเวลานี้ ไม่มีใครรู้ว่าคนไทยต้องอยู่ร่วมกับโควิด-19 ไปอีกนานแค่ไหน และจะมีคน-มีชุมชนที่เดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร แต่ตราบใดที่ยังมีความช่วยเหลือส่งให้กันและกัน ซีพี ออลล์ และครัวปันอิ่มฯ เชื่อมั่นว่าวิกฤตครั้งนี้จะต้องผ่านไปอย่างแน่นอน
