กองทุนฟื้นฟูฯ – สำนักงาน อัยการสูงสุดช่วยเกษตรกรด้านกฎหมาย ไกล่เกลี่ยพิพาทปัญหาหนี้ป้องกันถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบ

FLASH SALE
ฝากข่าว โดย :

กองทุนฟื้นฟูฯ –  สำนักงาน อัยการสูงสุดช่วยเกษตรกรด้านกฎหมาย

ไกล่เกลี่ยพิพาทปัญหาหนี้ป้องกันถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบ

กองทุนฟื้นฟูฯ – สำนักงานอัยการสูงสุด  สนองนโยบายรัฐเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกร จับมือทำMOUรับเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฏหมายให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้งในด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การร่างสัญญาต่างๆ ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้ รวมถึงการช่วยจัดการปัญหาหนี้เร่งด่วนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และรักษาที่ดินทำกินให้เกษตรกร  โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปีติพงษ์  พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นประธานการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว

ภาพ-1

                        นายวัชระพันธุ์  จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวถึงโครงการความร่วมมือในการเผยแพร่ความรู้และช่วยเหลือด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและสำนักงานอัยการสูงสุดว่า “ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลได้ให้นโยบายเร่งช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย ซึ่งด้วยฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายและอาจเป็นช่องว่างก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้ และการเสียประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะที่ดินทำกิน  จากข้อมูลที่เกษตรกรยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้มีจำนวน  501,880  ราย  มูลหนี้  79,420,010,086  บาท  ได้ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนหนี้พบว่าเกษตรกรเป็นหนี้เร่งด่วนตั้งแต่หนี้ผิดนัดชำระ  บังคับคดี  ขายทอดตลาด  รวมทั้งฟ้องล้มละลาย จำนวนถึง  177,753  ราย  มูลหนี้  44,211,090,679.88  บาท  ปัจจุบันสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกรไปจำนวน 27,461 ราย มูลหนี้  5,764,616,283.49  บาท  ซึ่งยังมีจำนวนเกษตรกรอีกมากต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ

ภาพ-4

                        ดังนั้นเพื่อให้การส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรและการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาหนี้สินเกษตรบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในส่วนเกษตรกรที่เป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกรทางกองทุนฟื้นฟูฯ  จึงได้ร่วมมือกับโดยสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือทางด้านกฏหมายแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกองทุนฯทั้งในเรื่องของการให้ความรู้ความเข้าใจในข้อกฏหมาย ระเบียบและการดำเนินงานของกองทุนฯ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในด้านคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การบริหารจัดการหนี้สิน และอรรถคดีต่าง ๆ

ภาพ-3

                        ซึ่งนอกจากการให้ความช่วยเหลือที่จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรแล้วความร่วมมือดังกล่าวยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูฯ รวมถึงส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางด้านกฎหมายให้กับ บุคลากรของกองทุนฟื้นฟูฯ อีกด้วย  เพื่อจะสามารถลงไปปฏิบัติงานกับเกษตรกรสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าว

ภาพ-2

                        ด้านนายตระกูล  วินิจนัยภาค  อัยการสูงสุด  กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางสำนักอัยการสูงสุดโดย สคช. จะเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งในปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับข้อกฏหมายเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร เพราะส่วนใหญ่เกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง จนกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้กลายเป็นปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินและสูญเสียที่ดินทำกิน  สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างมาก

โดยในการลงนามบันทึกความเข้าใจ  (MOU) ใ นครั้งนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดมีภารกิจคือจัดพนักงานอัยการเพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย อาทิ การให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายการจัดทำสัญญาต่างๆ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมทั้งการช่วยเหลืออรรถคดีต่างๆแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของทางสำนักอัยการสูงสุด” อัยการสูงสุดกล่าว

ภาพ-5

                        โครงการความร่วมมือในการเผยแพร่ความรู้และช่วยเหลือด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ดังกล่าวได้จัดขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2557 ณ ห้องประชุม 120 ปี  สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ